16 พฤศจิกายน 2552

สภาเทศบาลนครภูเก็ต อนุมัติ จ่ายขาดเงินสะสม 26 ล้านบาทก่อสร้างแผงขายสินค้า ตลาดสด 1

ในการประชุมสภาเทศบาลนครภูเก็ต สมัยวิสามัญสมัยที่ 3 ประจำปี 2552 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้มีมติผ่านความเห็นชอบอนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 26,249,000.-บาท เพื่อเป็นค่าดำเนินโครงการก่อสร้างแผงจำหน่ายสินค้า จำนวนไม่ต่ำกว่า 321 แผง และร้านจำหน่ายสินค้าไม่น้อยกว่า 86ร้าน ทางเดินส่วนกลาง พร้อมระบบไฟฟ้าและระบบสุขาภิบาลที่เกี่ยวเนื่องกับแผงจำหน่ายสินค้าในตลาดสดสาธารณะ 1 ถนนระนอง

นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่าการที่สภาฯอนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมเพื่อก่อสร้างแผงจำหน่ายสินค้าดังกล่าว สืบเนื่องมาจากการที่เทศบาลนครภูเก็ตได้ดำเนินโครงการก่อสร้างตลาดสดสาธารณะ 1 และอาคารพาณิชย์หลังใหม่ แทนอาคารตลาดหลังเดิมซึ่งชำรุด ซึ่งได้ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน2552 ที่ผ่านมา แต่การก่อสร้างอาคารในโครงการดังกล่าวไม่มีการก่อสร้างแผงและร้านจำหน่ายสินค้าไว้ เนื่องจากเป็นข้อตกลงระหว่างเทศบาลนครภูเก็ตและผู้ประกอบการทุกรายว่าการก่อสร้างแผงจำหน่ายสินค้านั้นผู้ประกอบการจะดำเนินการเอง ต่อมา เมื่อการก่อสร้างอาคารแล้วเสร็จ ผู้ประกอบการได้ยื่นหนังสือต่อเทศบาล เพื่อให้ทำการก่อสร้างแผงจำหน่ายสินค้าให้ โดยผู้ประกอบการจะผ่อนชำระค่าก่อสร้างให้แก่เทศบาลในภายหลัง เทศบาลนครภูเก็ต จึงได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาเทศบาลนครภูเก็ต เพื่อขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมเป็นค่าก่อสร้างแผงจำหน่ายสินค้า เพื่อให้การเปิดดำเนินการของตลาดสดสาธารณะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงการดำเนินการดังกล่าวยังถือว่าเป็นกิจการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของเทศบาลด้านบริการชุมชนและสังคมอีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนรายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาฯจึงมีมติอนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมจำนวน 26,249,000.-บาทเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวให้สำเร็จลุล่วง โดยแบ่งเป็นค่าก่อสร้างร้านค้าและแผงจำน่ายสินค้า จำนวน 19,007,000.-บาท ทางเดินส่วนกลาง พร้อมระบบไฟฟ้า ระบบสุขาภิบาลที่เกี่ยวเนื่องกับแผงและร้านจำหน่ายสินค้าเป็นเงิน 6,742,000.- บาท และถังคอนเทนเนอร์รองรับขยะมูลฝอย จำนวน 500,000.- บาท

ทั้งนี้ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2553 และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จและตลาดเปิดให้บริการแล้ว จะส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจในเขตเมือง มากขึ้น รวมถึงจะเป็นการส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิต ของประชาชน ที่ได้เลือกซื้อ - จับจ่ายสินค้า มีคุณภาพในตลาดสดที่ได้มาตรฐาน ทันสมัย ถูกหลักอนามัย และราคาเป็นธรรม ต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น