04 มีนาคม 2553

บสย. ค้ำ 30,000 ล้าน เต็มพอร์ตตามคาด ช่วยสินเชื่อหมุนเวียนในระบบกว่า 52,000 ล้านบาท

บสย. ปิดโครงการค้ำประกัน Portfolio เฟสที่ 1 เต็ม 30,000 ล้านบาทตามคาดหมาย หลายร้อยคำขอยังรอความหวังในการค้ำประกันฟรี รอชง ครม.ใหม่ เฟสที่ 2 พร้อมแผนเดินหน้าเปิดคลินิกค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ต่อ หวังยอดสินเชื่อโตเพิ่มเป็นแสนล้านในปี 55 หากรัฐไฟเขียวยืดโครงการออกไปอีก 1 ปี

ดร.พิชิต อัคราทิตย์ กรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. เปิดเผยว่าตลอดปี 2552 ที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความภาคภูมิใจของ บสย.และขอขอบคุณที่รัฐบาลโดยเฉพาะ รมช.กระทรวงการคลัง ฯพณฯประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ที่เห็นความสำคัญของระบบการค้ำประกันสินเชื่อโดยมอบหมายให้ บสย.เป็นกลไกสำคัญที่สนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจ โดยอนุมัติการเพิ่มทุนจำนวน 2,000 ล้านบาท จากกระทรวงการคลังเพื่อสนับสนุนมาตการการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.ในลักษณะ Portfolio Guarantee Scheme โดยนับจากวันเริ่มต้นการเปิดตัวโครงการ จนกระทั่งถึง ณ.สิ้นวันที่ 3 มีนาคม 2553 ซึ่งเหลือเวลาอีกเพียง 2 วันทำการจะเป็นวันสิ้นสุดการ โครงการค้ำประกันแบบ Portfolio Guarantee Scheme โดยเป็นโครงการที่ บสย.ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการ SMEs นั้น บสย.ได้ให้การค้ำประกันเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 7,284 โครงการ วงเงินอนุมัติรวมทั้งสิ้น 28,450 ล้านบาท ช่วยก่อให้เกิดสินเชื่อเข้าสู่ระบบสถาบันการเงินเป็นจำนวนเงิน 51,206 ล้านบาท สามารถช่วยรักษาสภาพการจ้างงานได้จำนวน 227,103 คน พร้อมทั้งทำให้สร้างการจ้างงานใหม่เพิ่มขึ้นอีก 28,705 คน

ปัจจุบัน บสย.มีทุนจดทะเบียนที่ 6,702 ล้านบาท ได้สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการ SMEsได้รับการอนุมัติค้ำประกันสินเชื่อคิดเป็นกว่า 10 เท่าของทุนจดทะเบียน การที่ บสย.สนองนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยให้ โครงการค้ำประกันแบบ Portfolio Guarantee Scheme ที่อนุมัติค้ำประกันกับสถาบันการเงินเป็น Portfolio และมีการจำกัดระดับความเสียหายในการชดเชยค่าค้ำประกัน รวมทั้ง บสย.ได้มีการทุ่มเททรัพยากรขององค์กร ทั้งด้านเงินทุนและบุคลากร ในการกำหนดกลยุทธ์การดำเนินงานเชิงรุกทั้งด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์การเข้าถึงสถาบันการเงิน และ SMEs ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการอนุมัติโดยใช้ระยะเวลาการพิจารณาการขออนุมัติค้ำประกันภายในระยะเวลาทำการ 3-5 วันทำการ โดยมิได้เป็นการลดคุณภาพการคัดกรองลูกค้า Portfolio แต่อย่างใด ทำให้ บสย. ประสบผลสำเร็จในการเป็นสถาบัน
ค้ำประกันสินเชื่อ 30,000 ล้านภายในระยะเวลา 1ปี สำหรับโครงการ Portfolio เฟสที่ 2 ซึ่งทั้งผู้ประกอบการ SMEs และสถาบันการเงินต่างรอคอย บสย. อยู่ระหว่างนำเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาอนุมัติ พร้อมทั้งจะขอคงมาตรการค้ำประกันฟรีต่อไปอีก 1 ปี

นอกจากนี้ บสย.ยังคงจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์การให้บริการคลินิกค้ำประกันสินเชื่อ ให้คำปรึกษาทางด้านการขอใช้บริการค้ำประกันและปัญหาในการขอสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs ในทุกภูมิภาค เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ตามโครงการไทยเข้มแข็ง 2555 และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น